จุดยืนกับต้นไม้ ตามกระแส
#ต้นไม้บ้าน #ต้นไม้คอนโด
นายช่างศิลป์รู้สึกตื่นเต้นไปกับกระแสต้นไม้ที่ดูจะหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆทั้งที่มาถามตัวเองว่าเราเล่นต้นไม้มากว่า 10 ปี เพรียงแต่ไม่เคยคิดที่จะขายเก็บสะสมอย่างเดียว มาวันนี้มองเห็นโอกาสว่า เฮ้อ ! ต้นไม้ทำเงินได้ขนาดนี้เลยเหรอ ทำให้จิตใจฟุ้งซ่านไปพักใหญ่ ก่อนที่จะมาถามตัวเอง ฉันคือใคร นักสะสม หรือ นักธุรกิจ หรือนักเก็งกำไร
เพื่อนๆลองคิดเล่นๆกันค่ะ ถ้าเราเป็นนักสะสม ราคาคงไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะคุณค่าทางใจอยู่เหนือมูลค่าของต้นไม้นั้น ราคาจะขึ้นจะลงคงไม่ใช่ปัญหา
ถ้าเพื่อนๆเป็นนักธุรกิจขายต้นไม้ ซื้อมาขายไปราคาเท่าไร เพื่อนๆก็กล้าซื้อเพราะเวลาขาย บวกกำไรไปด้วย เหมือนอย่างหุ้นอาศัยจังหวะเร็ว เข้าเร็วออกเร็ว ไม่มีเจ็บตัว (แต่ปัญหาตอนนี้คือ ไม่มีของจะขาย)
แต่ถ้าเพื่อนๆเป็นนักเก็งกำไร เห็นเขาขายได้กำไร อยากได้บ้าง แต่ไม่มีความรู้ ไม่มีความรัก จะซื้อต้นไหนก็ไม่กล้า กลัวขาดทุนพอราคาต้นไม้ขึ้นก็จะมานั่งเสียดาย แล้วบ่นทำไมราคามันขึ้น แล้วก็แช่งอยากให้ราคามันลงเป็นส่ะงั้นไป
วันนี้ได้แนวคิดจากพี่ชายในวงการต้นไม้กว่า 20 ปี แนะนำว่าถ้าเราซื้อไม้ตามกระแสเช่นมอสเตอร์ล่าด่าง แพงเท่าไรก็ซื้อ แล้วก็นำมาเลี้ยงยังไม่ขายเพราะหวังว่าอีก 6-12 เดือนราคาต้องขึ้น ค่อยขายต่อให้ราคาตกลงมายังไงก็ไม่ขาดทุนเพราะใบงอกเพิ่มมาแล้ว แต่ถ้าราคาขึ้นไปกว่าวันที่ซื้อล่ะจะเป็นอย่างไร
ความเสี่ยงไม่ใช่ราคาแต่คือ เลี้ยงแล้วตายค่ะ หรือ เมื่อถ้าหากเพื่อนๆคิดได้คนอื่นก็คิดแบบเราได้เช่นกันดังนั้นก็จะไม่ต่างอะไรกับยางพารา หรือไม้อื่นๆที่มีมากจนล้นแล้วราคาตก
สุดท้ายฝากแนวคิดว่า : ก่อนตัดสินใจเลี้ยง #ต้นไม้บ้าน #ต้นไม้คอนโด ให้ศึกษาให้ดีก่อน และที่สำคัญ ถ้าเริ่มต้นด้วยความรัก ยังไงก็ไม่มีวันขาดทุน
...เพื่อนๆคิดยังไงกับ #ต้นไม้ตามกระแส ...
.....นายช่างศิลป์บอกตัวเองว่า "ไม่รีบแต่มั่นคง" มองว่าต้นไม้ก็เหมือนแฟชั่นเปลี่ยนไปตามยุคสมัยเราเลือกรัก และมีความรู้กับต้นที่เราชอบจริงๆ ไม่เลี้ยงต้นไม้ตามกระแส
....แม้ว่าต้นไม้ผันผวนไปอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องไปกังวล เพราะในวันที่วิกฤตที่สุดของโลกได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ต้นไม้ยังเป็นสิ่งที่อยู่ได้แม้อาชีพอื่นจะมีผลกระทบเพียงใด
ติดตามเรื่องราว : #ต้นไมับ้าน #ต้นไม้คอนโด ได้ที่นี่ค่ะ
-------------------------------------
ติดต่อกับ นายช่างศิลป์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น